พา BIM ก้าวไปอีกระดับด้วย AI

ในปัจจุบัน BIM มีส่วนช่วยในทุกขั้นตอนของกระบวนการก่อสร้าง ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต การจัดการโครงการ ไปจนถึงการส่งมอบเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์

Date

November 25, 2021

Author

พงศธร พิมพ์นวลศรี (BIM Consultant)

Contract: [email protected]

การสร้างแบบจำลองสารสนเทศอาคาร (Building Information Model) มีผลต่อกระบวนการก่อสร้างไปไกลกว่าแค่การสร้างแบบจำลอง 3D ในปัจจุบัน BIM มีส่วนช่วยในทุกขั้นตอนของกระบวนการก่อสร้าง ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต การจัดการโครงการ ไปจนถึงการส่งมอบเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์

คำถาม คือ เราจะพัฒนาอุตสาหกรรมการก่อสร้างด้วย BIM ต่อไปได้อย่างไร ?

คำตอบของการพัฒนาเรื่องใด ๆ ในยุคนี้ อาจไม่ได้ต่างไปจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่นำเอาเทคโนโลยีมาขยายขีดจำกัดในการทำงาน คำตอบนั่นก็คือ Artificial Intelligence (AI) สิ่งที่หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสิ่งนี้กันมาสักพักแล้ว เพราะแม้ว่า BIM ได้นำพาเราไปไกลมากในแง่ของกระบวนการก่อสร้าง AI อาจจะพาเราไปได้ไกลยิ่งกว่า ผ่านการใช้ Machine Learning ในการพัฒนาประสิทธิภาพยิ่ง ๆ ขึ้นไป

AI : Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์ คือ คอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการรวบรวมและเรียนรู้ข้อมูล เพื่อนำมาในการคิดวิเคราะห์และจัดการหาวิธีแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง ยิ่งมีฐานข้อมูลมากเท่าไหร่ การประมวลผลก็จะยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนี่คือกุญแจสำคัญในงานก่อสร้างอย่างมาก เพราะในอุตสาหกรรมการก่อสร้างมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดการทรัพยากรทั้งคนและเวลา ซึ่งจุดนี้เองที่ AI จะเข้ามาช่วยให้เราปรับปรุงกระบวนการเหล่านี้ได้ ทั้งในแง่ของการลดต้นทุน ลดเวลา ลดความเสี่ยง อันเป็นปัจจัยหลัก ๆ ในการปรับปรุงคุณภาพงานก่อสร้าง

แล้ว AI กับ BIM เกี่ยวกันอย่างไร ? อันที่จริงปัจจุบัน Software BIM เริ่มมีความสามารถในการใช้ Machine Learning เพิ่มเข้ามา โดยใช้เพื่อการศึกษาข้อมูล ตรวจจับรูปแบบ และทำการตัดสินใจในบางกระบวนการที่สามารทำให้เป็นอัตโนมัติได้ แม้กระทั่งการปรับปรุงกระบวนการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นด้วย Software BIM เหล่านี้รวบรวมข้อมูลเอาไว้จำนวนมาก และใช้ AI สำรวจความเป็นไปได้ในทุก ๆ มิติ แล้วจึงค้นหาทางออกที่ดีที่สุด ได้รวดเร็ว และแม่นยำกว่ามนุษย์หลายเท่าตัว

ตัวอย่างการนำ AI มาผนวกกับ BIM ทำให้โครงการก่อสร้างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Source : https://www.autodesk.com/autodesk-university/fr/node/751

การออกแบบอาคาร: AI เป็นตัวช่วยในการออกแบบที่ดีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับโครงการที่มี Design Criteria มาก ๆ ผู้ออกแบบสามารถสร้าง กฏ หรือ ข้อกำหนด ขึ้นมา และให้ AI ช่วยคิด, วิเคราะห์, ประมวลผล และปรับปรุงผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ ให้ได้ดีที่สุดตามความต้องการ สิ่งนี้เรียกว่า Generative Design ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ที่ทำให้สถาปนิกหรือผู้ออกแบบอาคาร สามารถใช้ AI ช่วยออกแบบได้ตั้งแต่ Footprint ของอาคารบนที่ดิน ให้ได้ผังพื้นที่คุ้มค่าที่สุด, การออกแบบกรอบอาคาร (Façade Design) ที่เหมาะสมต่อสภาพภูมิอากาศที่สุด, การออกแบบโครงสร้างอาคารให้คุ้มค่าที่สุด โดยที่ยังรองรับน้ำหนักได้ตามกำหนด เป็นต้น

Source : https://www.youtube.com/watch?v=32CfICT-boI&ab_channel=ALICETechnologies

ควบคุมต้นทุน: ในปัจจุบันนั้น BIM ก็เข้ามาช่วยบริหารต้นทุนทั้งงบประมาณและเวลาได้อย่างมาก ด้วยการ Clash Detection, 4D Scheduling และ 5D Cost Estimate แต่ทุกกระบวนการก่อนหน้านี้ดำเนินการด้วยแรงงานของคน แต่เมื่อเราสามารถนำเอา AI เข้ามามีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว AI อาจช่วยวิเคราะห์และปรับปรุง Timeline การก่อสร้างให้สมจริงที่สุด ตามการวิเคราะห์ข้อมูลที่เคยสะสมมาจากโครงการก่อสร้างก่อนหน้า, ช่วยคาดการณ์ปัจจัยเสี่ยงและความรุนแรงความล่าช้าของโครงการ เพื่อให้ผู้ดูแลโครงการได้เตรียมป้องกันและรับมือได้ดีขึ้น

Source : http://www.abilitycorp.com.tw/html/product_system.php

ลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยใน Site ก่อสร้าง: เป็นที่รู้กันดีว่าในงานก่อสร้างนั้นเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดย 25% ของผู้เสียชีวิตในไซต์งานก่อสร้างมักเกิดจากอุบัติเหตุ ด้วยเทคโนโลยีของ AI และ BIM สามารถวิเคราะห์คาดการณ์สถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ เช่น การใช้กล้องตรวจสอบการสวมใส่ชุด Safety ก่อนเข้าพื้นที่ก่อสร้าง, การมี Sensor ติดกับอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากการทำงานบนที่สูง, คอยตรวจสอบการใช้งานเครื่องจักรหนัก แล้วจึงให้ AI คอย Monitor ทุก ๆ เหตุการณ์เสี่ยงก่อนที่จะเกิดเหตุขึ้น ทำทั้งการแจ้งเตือนเพื่อป้องกันเหตุ รวมถึงช่วยให้ Construction Manager ใช้วางแผนในการจัดการความเสี่ยงเหล่านั้นได้ดีขึ้นด้วย

ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานอาคาร: เมื่อ BIM เข้ามามีบทบาทในการการบริหารอาคารอย่างเต็มรูปแบบ ทุก ๆ ระบบถูกควบคุมที่ศูนย์กลางหมดแล้ว AI ก็สามารถมาใช้วิเคราะห์และบริหารการใช้งานอาคาร ทั้งระดับอุณหภูมิ การจัดการแสงสว่าง หรือการตรวจจับความปลอดภัยภายในอาคาร เป็นต้น

จากตัวอย่างที่ได้ยกมาทั้งหมดนั้น จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมการก่อสร้างยังมีพื้นที่ให้พัฒนาได้อีกมาก การนำ AI เข้ามาผสานการทำงานร่วมกับ BIM ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ช่วยส่งมอบโครงการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพียงใด ทั้งสามารถลดต้นทุนและเวลา ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ ไปจนถึงกระทั่งกระบวนการก่อสร้าง ทั้งยังทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานปลอดภัยยิ่งขึ้นอีกด้วย เมื่อมองไปยังอนาคต จะเห็นได้ว่ายังมีความเป็นไปได้อีกมากมาย ที่จะนำเอาเทคโนโลยี AI หรือเทคโนโลยีสมัยใหม่อื่น ๆ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมนี้

Related Blogs

“ลุมพินี วิสดอม” ระบุ ผู้ประกอบการอสังหาฯ เร่งเปิดตัวโครงการใหม่ กระตุ้นกำลังซื้อโค้งสุดท้าย ปี 2565

“ลุมพินี วิสดอม” ระบุ ผู้ประกอบการอสังหาฯ เร่งเปิดตัวโครงการโค้งสุดท้าย กระตุ้นยอดขายไตรมาสสี่ ปี 2565 ทำให้การเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2565 มีอัตราการเติบโตทั้งจำนวน และมูลค่ามากกว่าเท่าตัว ถึงแม้จะเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ จากภาวะเงินเฟ้อ ภาระหนี้ครัวเรือน และอัตราดอกเบี้ยที่ขยับสูงขึ้น

“ลุมพินี วิสดอมฯ” คาดตลาดอสังหาฯ ปี 2566 เติบโต 5-15%

ขณะที่การโอนกรรมสิทธิมีแนวโน้มเติบโต 0-10% ขึ้นกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยและผลกระทบที่เกิดจากการยกเลิกมาตรการผ่อนคลายการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV)

ที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่สะสมเดือน ม.ค.เม.ย. ปี 67 จำนวนหน่วยลดลง 25%(YoY) แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น 15%(YoY)

ที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่สะสมเดือน ม.ค.-เม.ย. ปี 2567 มีจำนวนหน่วยเปิดตัวลดลง 25%(YoY) แต่มูลค่าการเปิดตัวเพิ่มขึ้น 15%(YoY) ผลจากการเปิดตัวบ้านพักอาศัยในกลุ่มพรีเมี่ยมเติบโตขึ้นทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า

HomeAbout UsServicesBlog & NewsCareerContact Us