“ลุมพินี วิสดอม” เปิด 12 ทำเลศักยภาพในการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ

ลุมพินี วิสดอมระบุว่า ปัจจุบันผู้ซื้อที่อยู่อาศัยให้ความสำคัญกับการซื้อที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กับความต้องการของสมาชิกในครอบครัวทั้ง 4 รุ่น ทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน รวมถึงผู้สูงวัยที่จะมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

Date

June 22, 2022

Author

Research & Development Center

Contract: [email protected]

Categories

LWS, Real Estate, Trend

ลุมพินี วิสดอมระบุว่า ปัจจุบันผู้ซื้อที่อยู่อาศัยให้ความสำคัญกับการซื้อที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กับความต้องการของสมาชิกในครอบครัวทั้ง 4 รุ่น ทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน รวมถึงผู้สูงวัยที่จะมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จำเป็นต้องพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบของ Universal Design รวมทั้งการพัฒนางานบริการ ที่สามารถตอบโจทย์ให้กับคนทุกวัย โดยคำนึงถึงทำเลที่เหมาะสม

จากการสำรวจของ “ลุมพินี วิสดอม” โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบของทำเลที่ตอบโจทย์กับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ ประกอบด้วย ระยะเวลาการเดินทางจากที่อยู่อาศัยถึงโรงพยาบาลใช้เวลาไม่เกิน 15นาที มีโรงพยาบาลอยู่ในรัศมีของโครงการไม่น้อยกว่า 3 แห่ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้ชีวิตทั้งห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ โดยแบ่งทำเลที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยจากราคาที่ดินในแต่ละทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม 12 ทำเล ประกอบด้วย

Source : LWS

ทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท (Affordable Condominium)

ได้แก่ พื้นที่ มีนบุรี, รามอินทรา ก.ม. 8 และพระราม 2

ทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยที่ระดับราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป (Standard & Premium Condominium) ได้แก่ พื้นที่ ประชาชื่น-เกษตร, พระราม9-ศรีนครินทร์, พระราม 4-เอกมัย

ทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาบ้านพักอาศัยที่ระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท (Affordable House)

ได้แก่ พื้นที่ มีนบุรี, บางใหญ่, หนองแขม

ทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาบ้านพักอาศัยที่ระดับราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป (Standard and Premium House)

ได้แก่ พื้นที่ ภาษีเจริญ, ศรีนครินทร์, กล้วยน้ำไท

จากผลการสำรวจพบว่า ทำเลแต่ละแห่งข้างต้นมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ เนื่องจาก การเดินทางจากพื้นที่ที่อยู่อาศัยไปสถานพยาบาลที่ใกล้เคียงใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 15 นาที มีโรงพยาบาลมากกว่า 3 แห่งที่เปิดให้บริการในแต่ละทำเล ในขณะเดียวกันเป็นทำเลที่มีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอต่อการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ และสมาชิกในรุ่นอื่นๆ ของครอบครัวทั้งเด็ก และวัยทำงาน เหมาะกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบของ Universal Design เพื่อคนทุกวัยในครอบครัวโดยเฉพาะผู้สูงอายุ นอกจากทำเลแล้ว รูปแบบของที่อยู่อาศัยและบริการ มีความจำเป็นที่จะต้องออกแบบเพื่อตอบโจทย์กับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ จากการสำรวจพบว่า การพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยของผู้สูงอายุต้องคำนึงถึงการเลือกใช้วัสดุที่ต้องเหมาะสมโดยให้ความสำคัญเรื่องสุขอนามัย รวมถึงการออกแบบที่ให้ผู้สูงอายุอยู่อาศัยได้ง่าย เช่น ห้องน้ำต้องใช้พื้นกันลื่น มีที่จับเพื่อการประคองตัวสำหรับผู้สูงอายุ เป็นต้น ลดความลาดชันในแต่ละพื้นที่ของที่อยู่อาศัย ในขณะที่งานบริการในโครงการ ควรมีระบบการแพทย์ฉุกเฉินรองรับตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมที่จะส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล มีทีมดูแลอาคารที่สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้น และกู้ชีพได้ประจำโครงการ ตลอด 24 ชม. จัดกิจกรรมภายในโครงการ เพื่อส่งเสริมด้านจิตใจและสังคมของผู้อยู่อาศัยความร่วมมือกับภายนอก ร่วมมือกับโรงพยาบาลใกล้เคียง โดยอาจรวมถึงบริการรถรับ-ส่งตลอด 24 ชม. มีส่วนลดค่ายา และแพคเกจตรวจสุขภาพประจำปีในราคาพิเศษ หรือวัคซีนประจำปี รวมถึงบริการ telemedicine ร่วมมือกับศูนย์บริการสุขภาพที่อยู่ใกล้เคียง-ฟิตเนส-ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กับผู้สูงอายุในทำเลที่เหมาะสมเป็นโอกาสของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จะขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มคนวัยทำงาน ไปสู่กลุ่มผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อและต้องการที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับการใช้ชีวิต

Related Blogs

ตลาดอสังหาฯ เดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 เปิดตัวโครงการใหม่ลดลง 9% มูลค่าลดลง 2%

รายงานการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล สะสม 4 เดือนแรกปี 2566 ( ม.ค.-เม.ย.) มีจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง 9% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2565 และมูลค่าลดลง 2% เป็นผลจากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมลดลง และกำลังซื้อชะลอตัว

ตลาดอสังหาฯ 7 เดือนแรก 67 ลดลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าการเปิดตัวโครงการ

ตลาดอสังหาริมทรัพย์พื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 7 เดือนแรก (มกราคม-กรกฏาคม) ปี 2567 มีจำนวนหน่วยและมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง 35%(YoY) และ 12%(YoY) ตามลำดับ เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาฯ ชะลอแผนเปิดตัวโครงการใหม่ ตามภาวะเศรษฐกิจ และ กำลังซื้อที่ชะลอตัว

ตลาดอสังหาฯ เดือน ม.ค.-ก.พ. 2566 เปิดตัวใหม่ลดลง 18%(YoY) มูลค่าเพิ่มขึ้น 3%(YoY)

ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ปี 2566 สะสมเดือน ม.ค.-ก.พ. มีการเปิดตัวลดลง 18% (YoY) มูลค่าเพิ่มขึ้น 3% (YoY) โดยตลาดบ้านพักอาศัยที่อัตราการเปิดตัวที่เพิ่มขึ้นมากกว่าอาคารชุด

HomeAbout UsServicesBlog & NewsCareerContact Us