“แอล ดับเบิล ยู เอส” ระบุตลาดอสังหาริมทรัพย์พื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาสแรกปี 2568 มีจำนวนหน่วยการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง 36%(YoY) มูลค่าลดลง 46%(YoY) ผลจากการเปิดตัวบ้านพักอาศัยชะลอตัวลง ในขณะที่การเปิดตัวอาคารชุดเติบโตขึ้นเล็กน้อย
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในเครือ บริษัท แอล พี เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยผลสำรวจการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2568 พบว่า จำนวนหน่วยเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด 12,567 หน่วย และ มูลค่าการเปิดตัวที่ 95,397 ล้านบาท ลดลง 52% และ 40% ตามลำดับเมื่อเทียบกับการเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 26,589 หน่วย และ มูลค่า 160,307 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2567

โดยเป็นการเปิดตัวอาคารชุดพักอาศัย 20 โครงการ จำนวน 6,547 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 21,469 ล้านบาท คิดเป็นราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วย 3.28 ล้านบาทต่อหน่วย ลดลง 26%, 42%, 53% และ 18% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2567 ที่มีการเปิดตัวโครงการจำนวน 27 โครงการ คิดเป็นจำนวน 11,334 หน่วย มูลค่า 45,387 ล้านบาท หรือ คิดเป็นราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วย 4.00 ล้านบาท การเปิดตัวอาคารชุดใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2568 หลังจากที่ผู้ประกอบการชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนเมษายน 2568 หลังจากเผชิญกับสถานการณ์แผ่นดินไหว ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจซื้อ และ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องเข้าไปฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้ซื้อและกลุ่มลูกค้า และ เร่งซ่อมโครงการอาคารชุด ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว

ในขณะที่การเปิดตัวบ้านพักอาศัยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 จำนวน 64 โครงการ จำนวน 6,110 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 73,928 ล้านบาท ลดลง 43%, 60%, และ 36% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับจำนวนการเปิดตัวโครงการบ้านพักอาศัย ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 ที่มีการเปิดตัวทั้งสิ้น 112 โครงการ จำนวน 15,255 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 114,921 ล้านบาท ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของบ้านพักอาศัยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 12.10 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของบ้านพักอาศัยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 ที่ 7.53 ล้านบาทต่อหน่วย ราคาขายเฉลี่ยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 สูงกว่าระยะเดียวกันของปี 2567 เนื่องจากมีการเปิดตัวโครงการบ้านพักอาศัยในระดับราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท มีระดับราคาต่อหน่วยที่สูงขึ้น ในปี 2568 เมื่อเทียบกับปี 2567
ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 มีการเปิดตัวโครงการบ้านพักอาศัยที่ระดับราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท จำนวน 25 โครงการ จำนวน 3,732 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 17,055 ล้านบาท ลดลง 67%, 70% และ 68% ตามลำดับเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2567 ที่มีจำนวนโครงการเปิดตัว 76 โครงการ จำนวน 12,482 หน่วย มูลค่า 53,337 ล้านบาท ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 สำหรับบ้านพักอาศัยราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท อยู่ที่ 4.57 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 7% จากราคาขายเฉลี่ยที่ 4.27 ล้านบาทท ต่อหน่วย ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567

ในขณะที่ มีการเปิดตัวโครงการบ้านพักอาศัยที่ระดับราคาสูงกว่า 10 ล้านบาท จำนวน 42 โครงการ เพิ่มขึ้น 8% จากจำนวนโครงการที่เปิดตัว 39 โครงการในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 ในขณะที่จำนวนหน่วยเปิดตัวปี 2568 อยู่ที่ 2,378 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 56,873 ล้านบาท ลดลง 14%, 8% ตามลำดับ ราคาขายเฉลี่ย 25.9 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยเปิดตัว 2,773 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 61,583 ล้านบาท และราคาขายเฉลี่ยที่ 22.2 ล้านบาทต่อหน่วย ในระยะเดียวกันของปี 2567

“ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 ภาคอสังหาฯ เผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทั้งด้านนโยบายภาษีจากสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออก ปัจจัยอย่างหนี้ครัวเรือนที่ยังคงตัวในระดับสูง ผู้ซื้อชะลอแผนการซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากในช่วงปลายไตรมาสแรกของปี 2568 เผชิญกับสถานการณ์แผ่นดินไหว ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้ซื้อในการตัดสินใจซื้ออาคารชุดพักอาศัย ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ชะลอแผนการเปิดตัวโครงการอาคารชุดและทยอยเปิดในช่วงไตรมาส 3 ของปี
อย่างไรก็ตามในช่วงที่เหลือของ ปี 2568 ตลาดอสังหาฯ มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการ LTV และการขยายเวลาในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง และธนาคารอาคารสงเคราะห์ตอบรับนโยบายส่งเสริมการใช้จ่ายด้วยการออกสินเชื่อและมาตรการช่วยเหลือในปี 2568 อย่างสินเชื่อกู้ซื้อบ้านที่มีราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท กระตุ้นการซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว